นายกฯรับประเทศมีขัดแย้งแต่ไม่รุนแรง
"พล.อ.ประยุทธ์" ยอมรับประเทศมีขัดแย้งแต่ไม่รุนแรง ขอทุกคนหาสาเหตุ ย้ำการเมืองคือการเมือง ต้องมีกฏหมายควบคุม ย้ำทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจแก้ปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีความขัดแย้งอยู่บ้างแต่ไม่รุนแรงถึงขนาดนี้ ขอให้ทุกคนไปหาว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และรัฐบาลจึงต้องเข้ามาแก้ไขในสิ่งเหล่านี้ และย้ำว่าการเมืองคือการเมือง แต่ยังมีการออกมาเคลื่อนไหวทุกวัน และจะไม่มีกฏหมายเลยได้หรือไม่ เพราะหากไม่มีกฏหมายก็จะบานปลาย ขณะเดียวกัน เมื่อจับได้แล้วก็ประกันตัวออกมาวนเวียนอยู่แบบนี้ หากมองว่าทำไม่ถูกใครมีวิธีไหนก็ช่วยแนะนำมาด้วย แต่บางคนมุ่งหวังอย่างอื่นและมีเจตนาไม่บริสุทธิ์
แต่อยู่ที่สังคมว่าจะเลือกแบบนี้หรือไม่
แต่อยู่ที่สังคมว่าจะเลือกแบบนี้หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การประกาศเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล มีเป้าหมายที่ชัดเจน ที่จะสร้างสังคมไทยเป็นสังคมสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมเพื่อนำไปสู่สังคมสันติสุขและย้ำว่าทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้นรัฐบาลจึงทำต้องในหลายกิจกรรมในการสร้างสิ่งเหล่านี้ เพราะหากประเทศไม่มีความมั่นคงและสันติสุขจะไม่สามารถพัฒนาได้ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลและตนเองพยายามผ่อนคลายและทำทุกอย่างให้สงบเรียบร้อยมากที่สุด เพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืนและสากล ขณะที่ในวันนี้ยังมีความขัดแย้งมากมายในหลายประเด็นและมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายแห่ง และรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจได้ส่งเสริมและสร้างความตระหนักให้เจ้าหน้าที่รัฐและลดปัญหาที่เกิดการจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทำให้การเมืองและกฎหมายมีความสมดุลเพื่อบ้านเมืองไม่มีปัญหาในการเป็นประชาธิปไตย ส่วนตัวไม่อาจกล่าวอ้างว่าเป็นผู้นำที่ดีที่สุด แต่มีเจตนารมย์มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาในประเทศให้ได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่หรือใครก็ตามหากพบว่าเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนต้องลงโทษสถานหนัก แม้ใครจะ
ไม่ชอบรัฐบาล ไม่ชอบตน หรือ คสช. ก็ขอให้ชอบและรักประเทศไทย เพื่อทำให้ประเทศสันติสุข อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่รู้กฏหมายและอาจมีเจตนาดีแต่ลืมไปว่าอะไรคือกระบวนการยุติธรรม บางเรื่องไม่มีความรู้แต่วิพากษ์วิจารณ์ตัดสินกันไปก่อน จึงถือว่าสื่อทำให้ประชาชนไม่มีความสุข และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงอย่างหนึ่งด้วย
ไม่ชอบรัฐบาล ไม่ชอบตน หรือ คสช. ก็ขอให้ชอบและรักประเทศไทย เพื่อทำให้ประเทศสันติสุข อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่รู้กฏหมายและอาจมีเจตนาดีแต่ลืมไปว่าอะไรคือกระบวนการยุติธรรม บางเรื่องไม่มีความรู้แต่วิพากษ์วิจารณ์ตัดสินกันไปก่อน จึงถือว่าสื่อทำให้ประชาชนไม่มีความสุข และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงอย่างหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการใช้สิทธิเสรีภาพและการแสดงความคิดเห็นต่างๆต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น และที่ผ่านมามีการบิดเบือนทางการเมืองที่มีเจตนาที่บริสุทธิ์และไม่มีบริสุทธิ์ ดังนั้นขอฝากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. มองให้ครบทุกด้าน เพราะอนาคตก็ต้องเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวไม่เคยสั่งให้ไปทรมานใคร เพราะไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องและไทยยึดถือพันธะกรณีด้านสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด หากมีการกระทำดังกล่าวจริงก็ให้สอบสวนในทุกกรณี และมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงโทษเด็ดขาด
แต่ต้องตรวจสอบตามหลักฐาน และขอทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการ แต่บางคนกระบวนการครบแล้วยังไปเคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ และบางประเทศมองเป็นเรื่องภายในและเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยก็มีศักดิ์ศรีหากใครละเมิดหรือทำผิดในประเทศไทยต้องดำเนินคดีและส่งตัวกลับไปประเทศต้นทาง ดังนั้นทุกประเทศก็ต้องเคารพกฏหมายของไทย เพราะถือเป็นศักดิ์ศรีของไทย และอย่าให้มีการเคลื่อนไหวของคนทำผิดกฏหมายในแต่ละประเทศ
เพราะต้องเคารพกฏหมายคนอื่นด้วย
แต่ต้องตรวจสอบตามหลักฐาน และขอทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการ แต่บางคนกระบวนการครบแล้วยังไปเคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ และบางประเทศมองเป็นเรื่องภายในและเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยก็มีศักดิ์ศรีหากใครละเมิดหรือทำผิดในประเทศไทยต้องดำเนินคดีและส่งตัวกลับไปประเทศต้นทาง ดังนั้นทุกประเทศก็ต้องเคารพกฏหมายของไทย เพราะถือเป็นศักดิ์ศรีของไทย และอย่าให้มีการเคลื่อนไหวของคนทำผิดกฏหมายในแต่ละประเทศ
เพราะต้องเคารพกฏหมายคนอื่นด้วย
แหล่งข้อมูล INNNEws
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น